Ruth Ballett และ Tommy Howell เป็นผู้นำแคมเปญการตลาดสำหรับ YouTube ทั่วทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทั้งสองทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมให้ผู้ลงโฆษณามีความรู้และเครื่องมือในการเพิ่มศักยภาพของตนเองใน YouTube ให้ได้สูงสุด
สมัยนี้อะไรๆ ก็ไปโผล่บน YouTube ทั้งนั้น
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา YouTube ได้เติบโตไปเป็นอะไรที่มากกว่าแค่แพลตฟอร์มดูวิดีโอ เพราะ YouTube ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางสังคมและวัฒนธรรมไปแล้ว ตัวอย่างเช่น เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่ YouTube ได้ช่วยคนนับล้านคนดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาลดนตรี Coachella แต่วิธีที่คนสนุกกับเทศกาลได้เปลี่ยนไป
เมื่อปีที่แล้ว วิดีโอเกี่ยวกับ Coachella1 ที่ครีเอเตอร์เป็นคนนำเสนอมียอดวิวกว่า 600 ล้านวิว รวมถึงวิดีโอบล็อกและวิดีโอแต่งตัวเตรียมไปงาน การตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ทันสถานการณ์ และนำเสนอโดยครีเอเตอร์ กลายเป็นวิธีสำคัญที่ YouTube และผู้ใช้งาน YouTube Shorts ต่อเดือน 2 พันล้านคนใช้ช่วยนักการตลาดให้ได้ประโยชน์มากขึ้นจากกลยุทธ์โซเชียลมีเดียของตนเอง2
นี่คือสิ่งที่นักการตลาดจำเป็นต้องรู้เพื่อสร้างอิมแพ็กที่มากขึ้นให้กับแบรนด์ตนเอง
สร้างการมีส่วนร่วมที่แน่นแฟ้นขึ้นผ่านครีเอเตอร์ที่เชื่อใจได้
Scott Galloway ศาสตราจารย์ด้านการตลาดและนักวิเคราะห์ธุรกิจและสื่อชื่อดัง เห็นว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ควรจับตามองตอนนี้ เขาอธิบายว่า ด้วยการที่ YouTube แบ่งรายได้กับครีเอเตอร์ และเปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าถึงผู้ชมผ่านหลายๆ แพลตฟอร์มอย่างพอดแคสต์ (ที่ปัจจุบัน YouTube เป็นผู้เผยแพร่รายใหญ่ที่สุด) ทำให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างฐานแฟนคลับได้เป็นจำนวนมาก
Roya Zeitoune หัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมและเทรนด์ของ YouTube ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวว่า ครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จบน YouTube เพราะได้สร้างความสัมพันธ์กับแฟนๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป็นผู้ชมที่ภักดีและมีส่วนร่วมสูงมาก
“ครีเอเตอร์ YouTube เข้าถึงผู้ชมได้ในระดับที่เป็นส่วนตัว เป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในแบบที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เธอกล่าว “วันนี้ YouTube คือพื้นที่ที่กลุ่มแฟนคลับและชุมชนที่มีส่วนร่วมอย่างสูงกำลังเติบโต”
อันที่จริงแล้ว แฟนๆ ส่วนใหญ่หันมาดู YouTube เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มแฟนคลับตนเอง โดยแฟนๆ 73% ใช้ YouTube เพื่อดูคอนเทนต์ การพูดคุย หรือข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มแฟนคลับตัวเอง3 ซึ่งสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง TikTok และ Instagram ถึง 20% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ถึง 32% อย่างมีนัยยะสำคัญ4
ดูวิดีโอ
เหล่าครีเอเตอร์กำลังหล่อหลอมช่วงเวลาสำคัญทางวัฒนธรรมอยู่บน YouTube ยกตัวอย่างรายการ Chicken Shop Date ของ Amelia Dimoldenberg ที่ได้สัมภาษณ์ Jennie จากวง Blackpink ก่อนการแสดงที่ Coachella เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่ในรายการมีอะไรมากกว่าการสัมภาษณ์คนดัง แต่เป็นช่วงเวลาที่ครีเอเตอร์ได้สานสัมพันธ์ใกล้ชิด ที่ผสมผสานกลุ่มแฟนคลับ อารมณ์ขัน และวัฒนธรรมดนตรีเข้าด้วยกัน
การเปลี่ยนไปใช้การตลาดโซเชียลมีเดีย
แบรนด์กำลังใช้โอกาสเข้าถึงชุมชนออนไลน์เหล่านี้และลงทุนในการใช้จ่ายด้านโซเชียลมีเดียมากขึ้น ไม่นานมานี้ Unilever ประกาศว่าตอนนี้ครึ่งหนึ่งของค่าโฆษณาจะเอาไปลงกับการตลาดโซเชียลมีเดีย เพื่อใช้ประโยน์จากความเชื่อใจของผู้บริโภคที่มีต่อครีเอเตอร์และความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเขา
Fernando Fernandez ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของ Unilever กล่าวว่า “การสร้างระบบกิจกรรมทางการตลาดที่คนอื่นสามารถพูดแทนแบรนด์ของคุณได้ในวงกว้างเป็นสิ่งที่สำคัญ”
แต่ไม่ใช่ทุกแพลตฟอร์มที่จะเสนอความเชื่อใจในระดับเดียวกัน แบบสำรวจของ Ipsos พบว่าผู้ใช้ออนไลน์มีแนวโน้มที่จะเชื่อใจการแนะนำของครีเอเตอร์บน YouTube ถึง 98% เมื่อเทียบกับเว็บไซต์/แอปโซเชียลมีเดียอื่นๆ5
กลยุทธ์ที่โฟกัสไปยังความเห็นที่จริงใจและความเชื่อใจในครีเอเตอร์เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมาก จากงานวิจัยของ Kantar พบว่า YouTube มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นความตั้งใจซื้อสูงว่าโซเชียลมีเดียอื่นๆ 4.3 เท่า6
วิธีที่แบรนด์ร่วมมือกับครีเอเตอร์เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่จริงใจ
ผู้ลงโฆษณาในโซเชียลมีเดียเข้าใจถึงพลังของความจริงใจ และครีเอเตอร์ชื่อดังบน YouTube ก็มีความจริงใจแบบนั้นเพราะพวกเขาได้สร้างความไว้วางใจจากผู้ติดตามได้สำเร็จ และพร้อมที่จะร่วมมือกับแบรนด์ในการสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชม
Max แบรนด์แฟชั่นที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใช้โอกาสนี้เพื่อเสริมสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ผ่านการผสานคอนเทนต์ของแบรนด์เข้ากับครีเอเตอร์ที่เป็นพาร์ทเนอร์
Amit Saniwal ผู้จัดการฝ่ายการตลาดดิจิทัลของ Max อธิบายว่า “คอนเทนต์ของแบรนด์เองบน YouTube พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนหน้านี้ คอนเทนต์เราดูเหมือนวิดีโอโฆษณาแบบขายของจ๋าๆ แต่ตอนนี้คนมองเป็นคอนเทนต์ปกติ ไม่ใช่แค่โฆษณาอีกต่อไป”
“สิ่งนี้ช่วยสร้างความประทับใจที่มากขึ้นและกระตุ้นให้ลูกค้าดูสินค้าขณะที่กำลังดูอินฟลูเอนเซอร์คนโปรดของตัวเอง” เขากล่าว
เข้าถึงผู้ชมได้ตรงจุด
Neal Mohan ซึ่งเป็น CEO ของ YouTube กล่าวว่า แพลตฟอร์มจะยังคงเป็นพลังที่ต้องจับตามองในขณะที่ YouTube จะมีอายุครบ 20 ปีในปีนี้ “ใน 2 ทศวรรษที่ผ่านมา YouTube ได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมผ่านวิดีโอ และรังสรรค์เศรษฐกิจแห่งการสร้างคอนเทนต์ที่กำลังเติบโตขึ้น” เขากล่าว
ผู้ลงโฆษณาในโซเชียลมีเดียที่ต้องการเข้าถึงผู้ชมที่หลากหลาย สร้างความน่าเชื่อถือ และได้ ROI ที่พิสูจน์ได้จำเป็นต้องไปอยู่ในจุดที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมจริงๆ แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง TikTok อาจมีฐานผู้ชมที่ใหญ่ แต่ถ้าคุณอยากขยายไปให้ใหญ่จริงๆ ก็ควรรู้ไว้ว่า 47% ของผู้ใช้ YouTube Shorts ไม่ได้อยู่บน TikTok7 สำหรับทั้งครีเอเตอร์ แฟนๆ และแบรนด์ต่างๆ YouTube คือพื้นที่แห่งเทรนด์ไวรัลสั้นๆ ไปจนถึงประสบการณ์การรับชมแบบพรีเมียมที่พร้อมดื่มด่ำในทุกหน้าจอ และคือพื้นที่ที่ทุกคนควรอยู่