ข้ามไปที่เนื้อหา

ต้องการสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ใช่ไหม

คุณกำลังจะสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ คุณสามารถสร้างแคมเปญหลายแคมเปญได้ในบัญชีเดียวกัน โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่

ต้องการสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ใช่ไหม

คุณกำลังจะสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ คุณสามารถสร้างแคมเปญหลายแคมเปญได้ในบัญชีเดียวกัน โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่

เปิดมุมมองบทเรียนการตลาด Google ในรอบ 10 ปี

Lorraine Twohill

Social Module

แชร์

ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Think with Google Lorraine Twohill ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Google ได้แชร์ประสบการณ์การทำการตลาดที่น่าจดจำของ Google

ในโลกของการตลาด สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเทรนด์ใหม่ แพลตฟอร์มใหม่ หรือบริบททางวัฒนธรรมใหม่ ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน หน้าที่ของนักการตลาดคือต้องเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์ เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์

ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของ Think with Google ดิฉันได้รวบรวม 4 บทเรียนการทำการตลาดในช่วงเหตุการณ์สำคัญ มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้นี่เองที่ทำให้แบรนด์ยั่งยืนอยู่ได้ในโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

หน้าที่ของนักการตลาดคือต้องเตรียมพร้อมในทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์

1. ใช้ “อินไซต์” นำทาง: แคมเปญเปิดตัว Chrome

การเปิดตัวเบราว์เซอร์ Chrome ในปี 2008 นับเป็นเรื่องท้าทายสำหรับทีมของเรา เราเริ่มด้วยการรวบรวมข้อมูลตัวเลขและอินไซต์ (ข้อมูลเชิงลึก)ต่างๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกที่เรามักทำในแทบทุกแคมเปญ เราจึงเห็นว่าผู้คนให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ความเรียบง่าย และความเร็ว แคมเปญนี้จึงพยายามแสดงให้เห็นว่า Chrome ใส่ใจในประเด็นเหล่านี้และแตกต่างจากเบราว์เซอร์อื่นอย่างไร นอกจากนี้ แคมเปญ “There’s No Place Like Chrome” ที่ปล่อยออกมาในปีนี้ก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ความเรียบง่าย และความเร็วในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ผ่านสื่อกลางรูปแบบใหม่ๆ

2. เล่าเรื่องให้โดนใจ: โฆษณา Super Bowl ครั้งแรก

ย้อนไปเมื่อปี 2010 เราได้สื่อสารเรื่องราวของแบรนด์และพลังของเทคโนโลยีผ่านชีวิตผู้คน โดยได้สร้างโฆษณาที่ชื่อ “Parisian Love” ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวความรักผ่านผลิตภัณฑ์ของ Google ออกมาให้ผู้ชมทั้งโลกได้ชม และกลายเป็นโฆษณาตัวแรกของเราที่ได้ฉายในงาน Super Bowl โดยผลงานชิ้นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์ผ่านชีวิตผู้คน (human storytelling) ในปีต่อๆมา ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา “Dear Sophie” ของ Chrome หรือแคมเปญเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อย่าง “Get Back to What You Love” และ โฆษณา Super Bowl ชิ้นล่าสุดของเราอย่าง “Seen On Pixel” ที่ชูคอนเซ็ปต์ Real Tone หรือโทนสีสมจริง ซึ่งเป็นความพยายามของ Google ตลอดระยะเวลาหลายปีในการพัฒนากล้องและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับภาพทั้งหมดให้ถ่ายทอดสีผิวของผู้คนออกมาให้ตรงกับความจริงมากที่สุด

โฆษณา Super Bowl ครั้งแรกของเราเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านชีวิตผู้คน หรือ human storytelling

3. ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างสมดุล: การปรับลุคโลโก้ Google

ในปี 2015 ทีมของเราตัดสินใจลงมือเปลี่ยนลุคโลโก้ของแบรนด์ Google ครั้งใหญ่ แน่นอนว่าการปรับลุคโลโก้ที่ผู้คนชื่นชอบและจดจำได้ขึ้นใจคือเรื่องยาก แต่เราต้องยอมรับว่าโลโก้ของเราในตอนนั้นค่อนข้างล้าสมัย และจำเป็นต้องปรับโฉมให้ก้าวทันโลกที่กำลังเปลี่ยนไปเป็น mobile-first พร้อมทั้งแสดงออกถึงตัวตนความเป็น Google ที่ผู้คนรู้จักและหลงใหล รวมทั้งยังสะท้อนว่าเราคือแบรนด์ที่เข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าที่เคย ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

4. พูดจริง ทำจริง: ความทุ่มเทต่อประเด็นความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก

เมื่อไม่กี่ปีก่อนเราได้ร่วมกับสถาบัน Geena Davis Institute เพื่อประเมินวัดระดับความไม่แบ่งแยก (Inclusion) ที่อยู่ในงานของเรา โดยนำ Machine Learning มาช่วยวิเคราะห์การนำเสนอภาพแทนของเพศต่างๆ ในโฆษณา YouTube อีกทั้ง เรายังทำงานร่วมกับ GLAAD และ AdColor ที่เข้ามาช่วยพัฒนาหลักการตลาดแบบไม่แบ่งแยก (Inclusive Marketing) และเพิ่มความรอบคอบในการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเรา และเราวางแผนที่จะแชร์บทเรียนต่างๆ ให้กับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมผ่านทาง All In Inclusive Marketing Toolkit ต่อไป

10 ปีที่ผ่านมา เราผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากมาย ทั้งช่วงเวลาที่น่ายินดีภูมิใจ และช่วงเวลาที่แสนท้าท้าย 10 ปีต่อจากนี้ก็คงไม่ต่างกัน

Lorraine Twohill

Lorraine Twohill

CMO

Google

กลับขึ้นไปด้านบน