ข้ามไปที่เนื้อหา

ต้องการสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ใช่ไหม

คุณกำลังจะสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ คุณสามารถสร้างแคมเปญหลายแคมเปญได้ในบัญชีเดียวกัน โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่

ต้องการสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ใช่ไหม

คุณกำลังจะสร้างบัญชี Google Ads ใหม่ คุณสามารถสร้างแคมเปญหลายแคมเปญได้ในบัญชีเดียวกัน โดยไม่ต้องสร้างบัญชีใหม่

เส้นทางการซื้อรูปแบบใหม่และบทบาทของ “พฤติกรรม 4S” ที่มีต่อการตลาด

The Think with Google Editorial Team

Social Module

แชร์

พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนแปลงไป มาเข้าใจเส้นทางของลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ว่ามีความหมายอย่างไรสำหรับนักการตลาด

Marketing Funnel แบบเดิมที่นักการตลาดใช้อ้างอิงกันมาหลายสิบปีไม่สามารถบ่งบอกถึงเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) ได้ทั้งหมดอีกแล้ว เพราะปัจจุบันผู้บริโภคผ่าน Touchpoint หลายแห่งที่เชื่อมโยงกันและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

งานวิจัยชิ้นใหม่จาก Boston Consulting Group (BCG) เผยให้เห็นว่า “พฤติกรรม 4S” ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย Streaming (สตรีมมิง), Scrolling (ไถหน้าจอโทรศัพท์), Searching (ค้นหา) และ Shopping (ซื้อสินค้า) ได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการค้นพบและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ การทำความเข้าใจแต่ละพฤติกรรมและปรับแผนการตลาดของคุณจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาและสร้างยอดขายในที่สุด

"แผนภาพสีเขียวแสดงขั้นตอน 3 ระยะของเส้นทางของลูกค้า ได้แก่ การรับรู้, การพิจารณา และการตัดสินใจซื้อ โดยในแต่ละระยะจะมีจุดเชื่อมต่อ (Touchpoint) หลากหลาย เช่น โฆษณาทีวี โซเชียลมีเดีย อีเมล การค้นหา การจัดแสดงสินค้าในร้าน และการช้อปปิ้งออนไลน์ "

แล้ว “พฤติกรรม 4S” คืออะไรกันแน่ และมีบทบาทอย่างไรต่อกลยุทธ์การตลาดของคุณ เราจะมาเจาะลึกกันในบทความนี้

1. Streaming (สตรีมมิง): การบริโภคสื่ออย่างต่อเนื่อง

สตรีมมิงไม่ใช่แค่การดูหนังหรือฟังเพลง แต่ยังหมายถึงการบริโภคคอนเทนต์ในแบบของตัวเองอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าง YouTube, ทีวีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และพอดแคสต์ ซึ่งต่างจากการโฆษณาแบบทางเดียว (One-way Advertising) เพราะประสบการณ์ของสตรีมมิงจะเป็นแบบอินเทอร์แอกทีฟที่ผู้บริโภคสามารถเดินทางจากขั้นตอนการค้นพบไปสู่การตัดสินใจได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด

สิ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นคือ การจัดลำดับคอนเทนต์ การปรับเปลี่ยนตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ด้วย AI และการเล่าเรื่องเชิงอินเทอร์แอกทีฟ ซึ่งจะเปลี่ยนการรับชมแบบพาสซีฟที่ผู้ชมไม่ได้ให้ความสนใจมากนักให้กลายเป็นการมีส่วนร่วมอย่างตั้งใจ

2. Scrolling (ไถหน้าจอโทรศัพท์): การค้นพบเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

การเลื่อนดูเปรียบเสมือนการเดินดูสินค้าในห้าง ไม่ว่าจะดูในฟีดโซเชียลหรือค้นหาแรงบันดาลใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้คนบริโภคคอนเทนต์โดยไม่ได้ตั้งใจว่าจะซื้อ แต่ครีเอทีฟโฆษณาโดนๆ การจัดวางสินค้า หรือรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ก็จุดประกายให้หันมาสนใจและเกิดการดำเนินการ (Action) ได้ในเวลาไม่กี่วินาที

การจะทำให้ผู้คนหันมาสนใจคุณท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เร่งรีบได้ คุณต้องดึงความสนใจพวกเขาด้วยครีเอทีฟโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะภาพที่ดึงดูด การเล่าเรื่องที่เข้าถึงใจผู้คน และการปรับเปลี่ยนตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ด้วย AI

3. Searching (ค้นหา): เกิดความตั้งใจในการค้นหาข้อมูล

พฤติกรรมการค้นหามีการเปลี่ยนแปลงและผู้คนไม่ได้แค่พิมพ์คำค้นหาใน Google เท่านั้น ตอนนี้พวกเขามีวิธีค้นหามากมาย ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือที่ทำงานด้วย AI อย่าง Gemini เพื่อค้นคว้าในเชิงสนทนา, Google Lens ที่ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น หรือข้อมูลภาพรวมโดย AI หรือ AI Overview ที่ให้ข้อมูลสรุปจาก AI พร้อมลิงก์สำหรับศึกษาเพิ่มเติม รวมไปถึงการค้นหาแบบ Multimodal ที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ทั้งแบบข้อความ รูปภาพ และเสียง นอกจากนี้หลายคนยังดูรีวิวและการใช้สินค้าจริงบน YouTube พฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้ผู้บริโภคต้องการผลลัพธ์หรือคำตอบที่ตรงความต้องการของพวกเขาโดยเฉพาะในแบบเรียลไทม์และเข้าใจง่าย

ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดจึงต้องปรับแผนให้สอดคล้องกับระบบนิเวศของการค้นหาผ่านหลากหลายช่องทาง และใช้โซลูชันการโฆษณาที่ทำงานด้วย AI ที่มีพร้อมให้ใช้งานอย่าง Broad Match, Smart Bidding และชิ้นงานโฆษณาที่สร้างอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและสร้างผลลัพธ์ได้

4. Shopping (ซื้อสินค้า): เส้นทางการซื้อที่สลับซับซ้อนแต่ลื่นไหลไร้รอยต่อ

สิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวังในตอนนี้คือประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ราบรื่นไม่ว่าจะผ่านโพสต์โปรโมตสินค้าบนโซเชียล, โฆษณา YouTube ที่ใช้ช็อปปิ้งได้ หรือขั้นตอนการชำระเงินในแอป เส้นทางการซื้อแบบเดิมได้เปลี่ยนไปเพราะปัจจุบันผู้คนทำการซื้อกะทันหันและตัดสินใจผ่าน Touchpoint หลายแห่งจนเป็นเรื่องปกติ

นักการตลาดสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้โดยผสานการช็อปปิ้งเข้ากับ Touchpoint ทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง รวมถึงใช้ประโยชน์จากการแนะนำด้วยระบบ AI, ข้อเสนอที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ และ Call to Action ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อสร้าง Conversion ในทุกขั้นตอนของเส้นทางการซื้อ

นำหลัก “พฤติกรรม 4S” มาใช้จริง

“พฤติกรรม 4S” เหล่านี้สร้างทั้งความท้าทายและโอกาสในเวลาเดียวกัน ด้านหนึ่งเราจะพบว่าเส้นทางการซื้อของผู้บริโภคนั้นแยกย่อยออกไปหลายเส้นทางกว่าที่ผ่านมา ทำให้ยากต่อการคาดการณ์หรือวัดผล แต่ในอีกด้านหนึ่ง พฤติกรรมนี้ช่วยสร้างโอกาสให้นักการตลาดได้มีส่วนร่วม จูงใจ และสร้าง Conversion มากขึ้น

การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจำเป็นต้องมีกรอบการทำงานที่ยืดหยุ่น นักการตลาดต้องไม่ยึดติดอยู่กับ Marketing Funnel แบบเดิมที่เป็นเส้นตรง แต่ต้องเรียนรู้การใช้แรงจูงใจและ AI เพื่อให้วางกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับเส้นทางการซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบัน

ถ้าพร้อมแล้ว คุณสามารถทำตามแผน 6 ประการนี้เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เหล่านี้ให้เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจของคุณ

The Think with Google Editorial Team

The Think with Google Editorial Team

กลับขึ้นไปด้านบน